ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เช่น นครพนม เลย หนองคาย สกลนคร
มุกดาหาร และอุบลราชธานี มีพื้นที่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สำหรับการปลูก ลิ้นจี่
พันธุ์ นพ.1 เพราะสภาพอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำ
ในช่วงฤดูหนาว และความ อุดมสมบูรณ์ของดิน บริเวณแม่น้ำโขงดี ดังนั้น การปลูกลิ้นจี่พันธุ์
นพ.1 จึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร
ลิ้นจี่ นพ.1 เป็น พันธุ์เบา คือ ออกดอกติดผล
และสามารถให้ ผลผลิตได้ทุกปี
8 กก/ต้น/ปี เมื่อลิ้นจี่อายุ 4 ปี จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นตามอายุต้นและทรงพุ่มที่ เพิ่มขึ้นแต่ละปี ลิ้นจี่
นพ.1 มีขนาดผลใหญ่ โดยเฉลี่ย 38 ผล/กก. รสชาติหวานอมเปรี้ยว เล็กน้อย
ดิน
ดินที่เหมาะสมสำหรับลิ้นจี่ นพ.1 คือดินร่วนปนทราย และดินตะกอน
ที่มีความอุดมสมบูรณ์ถึงปานกลาง มีการระบายน้าดี มีความ เป็นกรด-ด่าง ประมาณ
5.5-6.5 การขยายพันธุ์ ลิ้นจี่ นพ.1 นิยมขยายพันธุ์ โดย การตอนกิ่ง
ระยะปลูก 8x8 หรือ 10x10 เมตร
ขนาดหลุมปลูก 50x50x50 ซม. หรือ 80x80x80 ซม. เมื่อขุดหลุมแล้วใส่ปุ๋ยคอก 1-2 บุ้งกี๋
ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 100 กรัม ปุ๋ยร็อค ฟอสเฟต อัตรา 5 กก.
หลังปลูกกดดินให้แน่น คลุมโคนต้น
โดยรอบด้วยเศษวัชพืชหรือฟางข้าวใช้ไม้หลักปักยึดล้าต้นกันลม โยก แล้วรดน้ำ
การดูแลรักษา
การให้น้ำ ในระยะแรกปลูกให้น้ำ 3-4 วัน/ครั้ง เมื่อต้น
พันธุ์ตั้งตัวได้ ค่อยเว้นระยะการให้น้ำ ออกเป็นอาทิตย์ละครั้ง ใน
ฤดูแล้งควรให้น้ำ เดือนละ 2 ครั้ง เมื่อลิ้นจี่โตถึงระยะให้ผลผลิต (อายุ 4
ปีขึ้นไป) ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ควรลดการให้น้ำ เมื่อลิ้นจี่แทงช่อดอกประมาณ
50 % ของทรงต้น ควรเริ่มให้น้ำ ที ละน้อย และให้บริเวณรอบนอกทรงพุ่ม
ต่อจากนั้นเพิ่มปริมาณโดยให้ 2 ครั้ง
การใส่ปุ๋ย
ลิ้นจี่ นพ.1 อายุ 1-3 ปีแรก ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ16-16-16
อัตรา 100-150 กรัม/ครั้ง/ต้น ควรใส่ต้นฝนและ ปลายฝน หลังการตัดแต่งกิ่ง
การป้องกันและกำจัดโรคและแมลง
หนอนใบชาอาการ : ทำให้ส่วนของใบอ่อนที่ถูกทำลายเป็นรอยแห้งสีน้ำาตาลอย่างชัดเจน
แมลงที่เข้าทำลายคือ หนอนผีเสื้อ
การป้องกัน : ควรพ่นด้วย สารคาร์บาริล
85 % WP (เชฟ วิน) อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 7-10 วัน หรือ อิมิดาโคลพริด
อัตรา 10 มิลลิกรัมต่อน้ำ 20 ลิตร เมื่อพบแมลงระบาด
หนอนเจาะขั้วผล
อาการ : เปลือกผลจะเป็นสีน้้าตาลบริเวณใกล้ขั้วผลและ
ลามลงมาส่วนกลางของผลแมลงที่เข้าทำลาย คือ แมลงวัน ทอง
การป้องกันกำจัด
: ถ้ามีการระบาดควรฉีดพ่นด้วย สารคาร์บาริล 85 %
WP (เซฟวิน) อัตรา 30 กรัมต่อน้้า 20 ลิตร 7 วันต่อครั้ง
หรือเก็บรวบรวมผลที่ร่วงหล่นและเก็บดักแด้ของหนอนที่อยู่บนใบทำลายทั้งหมด
โรคใบจุดสาหร่าย
อาการ :
มักจะเข้าทำลายในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงถ้าอาการรุนแรงมาก
โรคราดำ
อาการ
: ใบ กิ่ง ช่อดอก และช่อผล มีสีดำปกคลุมทำให้
ชะงักการเจริญเติบโตระบาดภายหลังแมลงปากดูดเข้า ทำลาย
แล้วขับถ่ายสารเหนียวเป็นละอองน้ำหวาน ซึ่งเป็น อาการของเชื้อราดำ
การป้องกันกำจัด
: ถ้าระบาดมาก ฉีดพ่น ด้วยสาร แมนโคเซบ อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
โรคกำมะหยี
อาการ : บริเวณผิวใบที่ถูกไรชนิดนี้ดูดท้าลายจะมีการสร้าง เส้นขนขึ้นเป็นแผ่นประสานกัน แผ่นคล้ายกำมะหยี่ จะเกิด
อาการ : บริเวณผิวใบที่ถูกไรชนิดนี้ดูดท้าลายจะมีการสร้าง เส้นขนขึ้นเป็นแผ่นประสานกัน แผ่นคล้ายกำมะหยี่ จะเกิด
กับใบอ่อน
ดอกอ่อน ช่วงที่ระบาดมาก เดือนมกราคม กุมภาพันธ์
และพฤษภาคม มิถุนายน
การป้องกันกำจัด : ควรฉีดพ่นด้วย กำมะถันผง 80% WP อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้าพบ
การป้องกันกำจัด : ควรฉีดพ่นด้วย กำมะถันผง 80% WP อัตรา 40 กรัมต่อน้ำ 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้าพบ
การระบาดเพียงเล็กน้อยให้ตัดเผาทำลาย
อาการผลแตก :
เกิดจากลิ้นจี่ได้รับน้ำ หรือธาตุอาหารไม่เพียงพอในระหว่างที่ลิ้นจี่กำลังพัฒนา
การป้องกัน
1. ให้น้ำลิ้นจี่ทีละน้อยและสม่ำเสมอระหว่างที่ผลลิ้นจี่กำลังพัฒนา
2. พ่นสารป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชโดยสม่ำเสมอ
การเก็บเกี่ยว
ลิ้นจี่พันธุ์ นพ.1 ออกดอกในเดือนธันวาคมและ
เก็บเกี่ยวได้ในเดือนเมษายน ผลผลิต 65-80 กก./ต้น/ปี (อายุ 8 ) ออกดอกติดผลทุกปี
การตัดแต่งกิ่งกลังการเก็บเกี่ยว
การตัดแต่งกิ่งหลังการเก็บเกี่ยวแล้ว
ควรตัดแต่งกิ่งที่ไม่เป็นระเบียบเป็นโรค หรือ เป็นรอยแผลที่เกิดจาก
แมลงทำลาย
สำหรับกิ่งที่ตัดแต่งเสร็จแล้ว ควรใช้ปูนขาว ทาเพื่อกันแผลเน่า เนื่องจากเชื้อรา
คุณค่าอาหารในส่วนที่บริโภคได้ 100 กรัม
>> น้ำ 85.2 กรัม
>> พลังงาน 57 กิโลแคลอรี
>> ไขมัน 0.1 กรัม
>> คาร์โบไฮเดรท 13.2 กรัม
>> เส้นใย 0.1 กรัม
>> โปรตีน 0.9 กรัม
>> แคลเซียม 7 มก.
>> ฟอสฟอรัส 41 มก.
>> เหล็ก 1.3 มก.
>> ไทอามีน 0.11 มก.
>> ไรโบฟลาวิน 0.04 มก.
>> ไนอาซีน 0.3 มก.
******อ้างอิงข้อมูลจาก กรมวิชาการเกษตร
นครพนม http://oard3.doa.go.th/ ******
ดาวน์โหลดไฟล์ การปลูกลิ้นจี่
>>>Down
load PDF File<<<